เชลซี vs แมนยู

เชลซีช้ำ VAR ริบ 2 ประตู! แมนยูแจ่มบุกตบสิงห์คาบ้าน อิกาโล่ประเดิมสนาม

“สิงห์บลูส์” สุดช้ำหลังยิงตุงตาข่าย 2 เม็ดแต่โดน วีเออาร์ปฏิเสธก่อนแพ้คาบ้านต่อ “ปีศาจแดง” 0-2 จากลูกโขกของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ด้าน โอเดียน อิกาโล่ ลงเป็นสำรองและเกือบทำประตูแรก ผลชนะครั้งนี้ แมนฯยูไนเต็ด บุกคว้าสามแต้มแซงขึ้นอันดับ 7 มี 38 คะแนนตามหลัง เชลซี อันดับ 4 แค่ 3 แต้ม เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 26 บิ๊กแมตคืนวันจันทร์ ระหว่าง เชลซี อันดับ 4 เปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 9 โดยนัดเปิดซีซั่นซึ่ง “ปีศาจแดง” ไล่ถล่ม สิงห์บลูส์ ไป 4-0 แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาในระบบ 4-3-3 สามแนวรุกใช้ มิชี่ บาตชูอายี่ เป็นหน้าเป้า และลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในรอบ 919 วัน และปลีกเป็น วิลเลี่ยน และเปโดร โรดริเกซ

ส่วนทางฝั่งแมนยูเกมนี้จะไร้ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ จะไม่ได้ลงช่วยทีม โดยส่ง เอริค ไบยี่ ที่ลงเล่นเป็นนัดแรกของซีซั่น ใช้แผนหลัง 3 คน ร่วมกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และลุค ชอว์  โดยมีตัวปั้นเกมอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ยืนอยู่หลัง แดเนี่ยล เจมส์ และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โดยกองหน้าตัวใหม่อย่าง อิกาโล่ มีชื่อเป็นสำรอง

เปิดฉากมานาทีที่ 6 เจ้าถิ่นเกือบได้ลุ้นขึ้นนำก่อนทันที มาเตโอ โควาซิซ จ่ายออกขวาให้ รีซ เจมส์ ดาวรุ่งของทีมแต่งเข้าขวาแล้วซัด บอลพุ่งถากเสาไกลออกไป

นาทีที่ 9  เชลซี ได้เสียวอีก เปโดร จ่ายไปขวาถึง วิลเลี่ยน ตัดเข้ากลางสับขาแล้วปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งไม่พอหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

อีกสามนาทีถัดมา บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลูกทีมของ โซลชา จ่ายให้ เฟร็ด ซัดด้วยหัวเกือกขวาบอลพุ่งไปติดบล็อค อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ออกหลังไป

นาทีที่ 13 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องเปลี่ยนตัว เมสัน เมาท์ ลงเล่นแทน

นาที 26 เปโดรแทงบอลทะลุให้ เมสัน เมาท์ ถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ยิงด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

“ผีแดง” ตอบโต้ทำเกมบุกขึ้นมาบ้าง นาที 31 บรูโน่ แฟร์นัลด์ส ซัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่เข้ากรอบ จากลูกจ่ายของ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์

นาทีสุดท้ายครึ่งแรก แฟนผีได้เฮลั่นเดอะ บริดจ์ เมื่อแมนยูบุกมานำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางขวา อารอน วาน-บิสซาก้า ครอสมาให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โฉบมาโขกบอลเสียบเสาไกล 

นาที 45+4 ช่วงทดเจ็บ บาตชูอายี่ รับบอลจาก เปโดร ยิงด้วยขวาหลุดกรอบไป จบครึ่งแรก เจ้าบ้าน เชลซี ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง “สิงห์บลูส์” ต้องเปลี่ยนคนที่สองส่ง คูร์ท ซูม่า ลงไปคุมหลังแทน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่มีอาการเจ็บ ในครึ่งแรก
    
เกมเดินมาในนาที 55 เจ้าถิ่นสวนกลับขึ้นมา เปโดร กระชากจี้เข้ากลางแล้วไหลออกซ้ายให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ครอสเข้ากลางไปโดน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ล้มตัวขวาง บอลมาเข้าทาง เปโดร วิ่งมาหวดด้วยซ้ายพุ่งไปติดบล็อค อารอม วาน-บิสซาก้า เป็นเตะมุม

และจังหวะต่อเนื่อง วิลเลี่ยน เปิดบอลมาถึง คูร์ท ซูม่า วิ่งมาซัดบอลเข้าซุกตาข่าย แต่ วีเออาร์ ไม่ให้ประตูตีเสมอแก่เจ้าถิ่น เนื่องจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า วิ่งไปพลัก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ล้มลงไปก่อน ทำให้ฟาว แมนยูยังคงนำ 0-1

นาที 64 ทีมเยือนได้ลุ้นฟรีคิก จากจังหวะที่ เปโดร ไปเข้าฟาวส์ใส่ เฟร็ด จนล้มลงนอกกรอบ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะซัดฟรีคิกชนเสาอย่างจัง พลาดได้ประตูที่ 2

อีกสองนาทีต่อมา “ปีศาจแดง” นำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ บรูโน่ เปิดเข้ากลางมาให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เบียดรูดิเกอร์ชนะก่อนโขกเข้าไปจมตาข่าย

นาที 72 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่ลงมาเป็นสำรอง แทน บาตชูอายี่ แทงบอลทะลุให้ มาเตโอ โควาซิช หลุดเดี่ยวซัดด้วยขวาแต่บอลไปติด เอริค ไบยี่ ติดบล็อคออกไป

นาที 77 เมสัน เมาท์ เปิดไปหน้าประตูให้ ชิรูด์ โขกผ่านตัว เด เคอา เข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR ปัดไม่ให้ประตูอีกเนื่องจากล้ำหน้า ทำให้เชลซียังตามผีแดง 0-2 เหมือนเดิม

นาที 89 เจ้าบ้านอดตีไข่แตกอีกครั้ง หลัง เมสัน เมาท์ ซัดฟรีคิกนอกกรอบบอลโค้งข้ามกำแพงแต่ไปชนเสาอย่างจังออกไป

ช่วงทดเจ็บ น.90+1 “ปีศาจแดง” โอเดียน อิกาโล่ ถูกส่งลงมาเล่นแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และเกือบซัดเปิดซิงทันทีหลัง เฟร็ด แทงบอลให้ อิกาโล่ หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่ไปยิงติดเซฟของ วิลลี่ กาบาเยโร่

จบเกม เชลซี เปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ส่งผลให้ “ผีแดง” เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 38 คะแนน ขยับรั้งอันดับ 7 ตามหลังอันดับ 4 เชลซี อันดับ 3 เพียง 3 คะแนน


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น (คูร์ท ซูม่า น.46), อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า – เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เมสัน เมาท์ น.13), จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ – วิลเลี่ยน, มิชี่ บาตชูอายี่ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.68), เปโดร โรดริเกซ 

ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

แมนฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ดาบิด เด เคอา – เอริค ไบยี่, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – อารอน วาน-บิสซาก้า, เนมานย่า มาติช ,เฟร็ด, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ – บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ดีโอโก้ ดาโลต์ น.90+2) – แดเนียล เจมส์ (อันเดรียส เปเรยร่า น.80), อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (โอเดียน อิกาโล่ น.90+1)

ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

เชลซี ปะทะ แมนยู Previous post วิเคราะห์ฟุตบอล “เชลซี” เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “แมนยู”
แอต vs ลิเวอร์ Next post แอตเลติโก้ มาดริด 1 – 0 ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูลยิงไม่เข้ากรอบซักลูก!